teeneekrubus ที่นี่ครับยูเอส

วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2559

เสื้อ Field jacket M-65 Parka Extreme Cold Weather Green 1983 W/Liner Size X-Small (FGXS36)

สื้อ Field jacket M-65 GENUINE US MILITARY FISHTAIL PARKA EXTREME COLD WEATHER JACKET MEDIUM USAF M65 
US Army Extreme Cold Weather jacket. As issued in 1983.
1983 dated military fishtail parka extreme cold OD green USA medium carbon hill เนื้อผ้านิ่ม ใส่สบาย
ตามป้ายผลิตปี 83 ค่ะ รุ่นซิปทองแดง
เสื้อ M-65 แบ่ง 3 รุ่นหลักๆ
1.ซิบเงิน Scovill และ ZZZ 
2.ซิบทองแดง Scovill และ YKK
3.ซิบไนล่อน YKK
วิธีอ่านป้ายแปะด้านในตัวเสื้อ ตามรูป DLA 100-83-C-0482
100 = แบบไสตล์ ในที่นี้คือ M-65
83 = ปีผลิต
C = อันนี้ยังไม่ทราบ
0482 = อันนี้ยังไม่ทราบ แต่ตามความเข้าใจว่าเป็นรหัสโรงงาน หรือ ล็อต
NSN: 8415-00-782-3218
หลังจากมีการออกแบบและ ผลิตM-65 อันโด่งดังขึ้นมาในปี 1984 กองทัพบกสหรัฐได้ให้ความเห็นว่าเป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ง่ายต่อการปฎิบัติภารกิจของกองทัพ จึงใช้มาอย่างต่อเนื่องและยาวนานกว่ารุ่นก่อนๆ มีการใส่ลวดลายลงไป เช่นพรางป่าฝน หรือ พรางทะเลทราย แต่ทั้งหมดก็ยังคงไว้ด้วยรูปทรง M-65 ในส่วนที่เราได้สัมผัสกันบางครั้ง เราสงสัยกันมากว่าทำไมเนื้อผ้าไม่เหมือนกัน สืบเนื่องมาจากจำนวนประชากรทหารของสหรัฐเองมีมากมาย ถ้าจะให้โรงงานแห่งเดียวผลิตคงไม่ทันแจกจ่าย รวมทั้งยังมีทหารมากมายที่นำเสื้อผ้าออกมาจำหน่ายให้กับร้านค้าและบุคคลทั่วไป ด้วยเนื่องว่าสามารถตกเบิกใหม่ได้ ทางสหรัฐเองจึงต้องจ้างโรงงานจากหลาย ๆ ที่ผลิตเสื้อขึ้นมา ดังนั้นเนื้อผ้าและความแตกต่างของลายละเอียดนิด ๆ หน่อย ๆ จึงตามมา ปัจจุบัน M-65 เป็นต้นแบบให้กับเสื้อ JACKET ในเชิงแฟชั่นจำนวนมาก อีกทั้ง แฟชั่นทหาร ก็ไม่เคยตายจากสังคม จึงทำให้มีนักสะสมหลายท่านเริ่มตามหารุ่นเก่าปัจจุบันนี้ สหรัฐได้มีการปรับเปลี่ยนเครื่องแบบใหม่แล้วโดยใช้ลาย ดิจิตอล แทนเสื้อผ้ารุ่นเก่าทั้งหม ที่นิยมเก็บกันมีหลายรุ่นมากค่ะ ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน เช่น
1.M-43 สงครามโลกครั้งที่ 2
2.M-51 สงครามเกาหลี
3.M-65 สงครามเวียดนาม-สงครามอิรักตอนต้น-สงครามในอัฟกานิสถาน
นี่ยังไม่รวมถึงเสื้อของนักบินB1-B15(อาจมีรุ่นอื่นๆอีก)หรือจะเป็นพวกทหารท่าเรืออย่าง A1 A2 เหล่านี้ล้วนนิยมจากนักสะสมทั้งสิ้น
ข้อความทั้งหมดนี้ คงมีประโยชน์กับทุกท่านที่กำลังมองหาของสะสมไม่มากก็น้อย หากข้อความตอนใดผิดพลาดไป กราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ และหากท่านใด จะช่วยส่งเสริมหรือแบ่งปันข้อมูลเพิ่มเติมก็จะดีมากนะคะ 
ส่วนสภาพเสื้อ Fieldjecket มือสอง ของแท้ 100% จากทหารอเมริกัน ตัวนี้สภาพสวยมากค่ะ สภาพ 95% ไม่มีตำหนิ สีคงความสดเหมือนเดิมค่ะ รุ่นนี้เป็นสินค้าที่หายากมาก  รุ่นสงครามอัฟกานิสถาน ผลิตปี 1983  ซิปทองแดง SCOVILL อายุของเสื้อเกือบ 33 ปีแล้วค่ะ สภาพสวยกิ๊ก
size X-Small อก 33"  ยาว 67"-71" 
ราคา 3,500 บาท + ค่าส่ง EMS 120 บาท
Made in the U.S.A.

WEARER SPECS:
CHEST: From 37 to 41 inches
Stock number is 8415-00-782-3218. Contract number is DLA100-83-C-0482.
Material is 65% cotton, 35% nylon.
Liner: Size Small :- Stock number is 8415-01-102-4482. Contract number is DLA100-84-C-0473.

Mil-Tec US M65 Fishtail Parka 
Colour: Olive
Introduced to the US Army in early 50's the fishtail parka was widely used by American soldiers to cope with the freezing conditions during the Korean War. Known as the M1951 (or M51) fishtail parka was then replaced by its warmer and lighter version with a detachable hood - the M-1965 (M65) fishtail parka. In the 60's the fishtail parka became a symbol of the mod subculture. Nowadays, although it has been replaced in the US military by the Extended Cold Weather Clothing System (ECWCS), the fishtail parka remains one of the most popular and recognizable military jackets model.
Presented M65 fishtail extreme cold weather (ECW) parka features full length button-in quilted winter liner. This type of coat can be tied around the upper legs for added wind protection thanks to the fact that it is longer at the back than at the front - that is where name 'fishtail' comes from. Moreover it goes with heavy duty full length front zipper and studded storm flap, two large angled front pockets with flaps and stud closures, drawstring waist and hem as well as adjustable wrist button straps. Hood is not included.
  • Comfortable and roomy cut
  • Original vintage look
  • Stand-up collar
  • Brass front zipper
  • 2 front pockets
  • Windproof outer shell
  • Removable quilted liner
  • Drawstring waist and hem
  • Adjustable wrists
  • Upper: 65% cotton, 35% nylon
  • Thermal liner outer covering: 100% nylon
  • Thermal liner batting: 100% polyester





























Thanks for Looking and Have a Great Day!

29 มีนาคม ค.ศ. 1973 อเมริกันได้ถอนทหารออกจากเวียดนาม

 29 มีนาคม ค.ศ. 1973 อเมริกันได้ถอนทหารออกจากเวียดนาม
ประกอบ คุปรัตน์Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org
ศึกษาและเรียบเรียงจาก History.com “March 29, 1973: U.S. withdraws from Vietnam”
วันนี้ในอดีต 29 มีนาคม ค.ศ. 1973 อเมริกันได้ถอนทหารออกจากเวียดนาม
ภาพ การสู้รบของกองทัพสหรัฐที่ต้องต่อสู้กับสงครามกองโจร การใช้เฮลิคอปเตอร์ในการรำเรียงพล และการต้องเผชิญหน้ากับการรบแบบสู้กับสงครามกองโจรที่สหรัฐไม่คุ้นมาก่อน
 นับเป็นเวลา เดือนหลังการลงนามสันติภาพเวียดนาม กองกำลังรบสุดท้ายของสหรัฐได้ถอนออกจากเวียดนามใต้ เมื่อฝ่ายฮานอยเวียดนามเหนือได้ปล่อยทหารอเมริกันที่ถูกจับเป็นเฉลย ในเมืองไซ่ง่อน อเมริกันยังมีพลเรือนอีก 7,000คนที่ทำงานให้กับกระทรวงกลาโหมที่ยังคงอยู่ เพื่อคอยช่วยเหลือชาวเวียดนามใต้ที่ยังคงมีสงครามสู้รบอย่างรุนแรงต่อไปกับคอมมิวนิสต์เวียดนามเหนือ
ในปี ค.ศ. 1961 เป็นต้นมา นับเป็นเวลา 2ทศวรรษที่อเมริกันได้มีการช่วยเหลือทางทหารโดยทางอ้อม โดยในครั้งแรก ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี (John F. Kennedy)ได้ส่งกองกำลังทหารขนาดใหญ่เข้าไปในเวียดนาม เพื่อช่วยรัฐบาลของเวียดนามใต้ต่อสู้กับเวียดนามเหนือ โดยจัดเป็นกองกำลังเพื่อให้คำปรึกษาด้านการสู้รบ หลังจากนั้น ปี รัฐบาลของฝ่ายเวียดนามใต้ก็ล่มสลาย ประธานาธิบดีลินดอน บี จอห์นสัน (Lyndon B. Johnson)จึงได้เพิ่มบทบาทของกองทัพสหรัฐเป็นจำกัดเพียงเป็นที่ปรึกษา และได้มีการทิ้งระเบิดเวียดนามเหนือ และต่อมารัฐสภาสหรัฐได้อนุมัติให้ส่งทหารอเมริกันเข้าสู่สมรภูมิรบโดยตรง แต่ไม่ได้ทำให้สงครามมีท่าทีว่าจะยุติลง ในปี ค.ศ. 1965ฝ่ายเวียดนามเหนือได้เพิ่มระดับการโจมตี จนประธานาธิบดีสหรัฐมีเพียงสองทางเลือก คือยกระดับการเข้าร่วมสงคราม กับการถอนทหาร จอห์นสันได้ตัดสินใจสั่งเพิ่มกำลังรบโดยส่งทหารอเมริกันเข้ารบมากกว่า300,000 นาย และสั่งให้กองทัพอากาศเข้าโจมตีทิ้งระเบิดในเวียดนามอย่างติดต่อกันยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์
ในช่วงการสู้รบหลายปีต่อมา สงครามก็ยังยืดเยื้ออย่างไม่มีวันจบ ทหารสหรัฐในเวียดนามได้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น และทำให้สหรัฐมีสถานะเสี่ยงต่อการเป็นชาติอาชญากรสงคราม ดังกรณีการสังหารหมู่ที่ “มีไล” (Massacre at My Lai)ทำให้หลายฝ่ายไม่เห็นด้วยต่อการเข้าสู้รบของสหรัฐในเวียดนาม ในปี ค.ศ.1968 การรุกใหญ่ของฝ่ายคอมมิวนิสต์เวียดนามที่เรียกว่า Tet Offensiveยิ่งทำให้เห็นชัดว่าโอกาสที่สหรัฐจะชนะสงครามนั้นเหลือน้อยมาก เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ในเวียดนามที่เลวร้ายยิ่งขึ้น ประธานาธิบดีจอห์นสันได้ประกาศว่า เขาจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในสมัยต่อไป และเขาเห็นว่าเป็นความรับผิดชอบของเขาที่ทำให้เกิดความคิดเห็นที่แตกแยกกันอย่างหนักของคนภายในชาติในประเด็นสงครามเวียดนาม และเขาได้ให้อำนาจอเมริกันเข้าร่วมในการประชุมเพื่อสันติภาพ
ภาพ การทิ้งระเบิดโดยฝ่ายกองทัพอากาศสหรัฐในสงครามเวียดนาม
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี ค.ศ. 1969ในขณะที่การเดินขบวนต่อต้านสงครามโดยคนหนุ่มสาวและประชาชนชาวอเมริกันเอง ได้ขยายวงไปทั่วประเทศ ส่วนกองกำลังสหรัฐเองในเวียดนามก็ได้เพิ่มขึ้นจนใกล้ 550,000 คน ประธานาธิบดีคนต่อมา คือ ริชาร์ด นิกสัน (Richard Nixon)ได้เริ่มกระบวนการถอนทหารออกจากเวียดนาม โดยใช้นโยบายว่าการต่อสู้ภายในเวียดนามให้เป็นเรื่องระหว่างเวียดนามด้วยกันเอง (Vietnamization) แต่สหรัฐกลับมาใช้นโยบายสนับสนุนด้านการทิ้งระเบิด แต่มีการถอนทหารออกจากเวียดนามเพิ่มมากขึ้น แต่มีการขยายการโจมตีทางอากาศไปยังประเทศลาวและกัมพูชาในช่วงเริ่มต้นของทศวรรษ 1970 ทั้งนี้โดยให้เหตุผลว่าเพื่อตัดการส่งกำลังของฝ่ายเวียดนามเหนือลงมายังเวียดนามใต้ การปรับเปลี่ยนลดกำลังรบลงก็จริง แต่เท่ากับเป็นการขยายเขตสู้รบเข้าไปในอีกสองประเทศยิ่งไปเพิ่มกระแสการต่อต้านสงครามภายในสหรัฐเอง
ในที่สุดในเดือนมกราคม ค.ศ. 1973 ตัวแทนสหรัฐ เวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ และฝ่ายเวียดกง คือกองกำลังรบต่อต้านรัฐบาลเวียดนามใต้ ได้ร่วมลงนามในสัญญาสันติภาพที่กรุงปารีส อันเป็นการยุติการเข้ามีส่วนสู้รบในสงครามจากฝ่ายสหรัฐ โดยมีการถอนกำลังรบทั้งหมด มีการปล่อยนักโทษสงคราม และปล่อยให้เกิดสันติภาพรวมเวียดนามเหนือและใต้ด้วยกระบวนการสันติภาพ โดยฝ่ายรัฐบาลเวียดนามใต้ที่สหรัฐสนับสนุนยังคงรักษาการณ์จนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ และฝ่ายกองกำลังทั้งของฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้จะไม่มีการรุกคืบหน้าหรือเสริมกำลัง
แต่ในความเป็นจริง ข้อตกลงนั้นเป็นเพียงเพื่อรักษาหน้ารัฐบาลสหรัฐในช่วงที่ต้องมีการถอนทหารออก แม้ในช่วงที่มีการถอนทหารสหรัฐจบสิ้นในวันที่ 29 มีนาคม ฝ่ายคอมมิวนิสต์ก็ได้ฝ่าฝืนมติหยุดยิง และในต้นปี ค.ศ. 1974ฝ่ายเหนือได้มีการขยายแนวรบรุกลงใต้ ฝ่ายรัฐบาลเวียดนามใต้แจ้งว่าทหารและพลเรือนเวียดนามใต้ได้เสียชีวิตไปกว่า80,000 คนในช่วงปีดังกล่าว และทำให้เป็นช่วงที่มีการสูญเสียมากที่สุดในสงครามเวียดนาม
ในวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 1975ชาวอเมริกันกลุ่มสุดท้ายได้ถูกอพยพออกจากเวียดนามใต้ทางอากาศ ในขณะที่ทั้งประเทศได้ตกอยู่ในการครอบครองของฝ่ายคอมมิวนิสต์ นายพันเอกบุย ทิน (Colonel Bui tin)แห่งกองทัพเวียดนามเหนือเป็นฝ่ายรับการยอมแพ้สงครามของฝ่ายเวียดนามใต้ภายในเวลาต่อมาของวันนั้น พร้อมกล่าวแก่ฝ่ายเวียดนามใต้ว่า “ท่านไม่มีอะไรต้องวิตก ระหว่างเราเวียดนาม ไม่มีผู้ชนะและผู้แพ้ มีเพียงอเมริกันเท่านั้นที่พ่ายแพ้” สงครามเวียดนามนับเป็นสงครามที่ไม่ได้รับความชื่นชมที่สุดที่ได้กระทำในต่างแดนในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ ทำให้อเมริกันเสียชีวิตไปรวม 58,000 คน มีชาวเวียดนามทั้งทหารและพลเรือนถูกสังหารไปมากถึง ล้านคน

ภาพ จากการทิ้งระเบิดอย่างปูพรม แต่ผลกระทบต่อประชาชนที่ไม่รู้เรื่องจะสูงมาก ดังภาพการหนีตายจากระเบิดเพลิงนาปาล์มในสงครามเวียดนาม 

1 ความคิดเห็น:

ขอกราบขอบคุณลูกค้าทุกท่านค่ะ

ถึงแล้ว ไทยแลนด์ ..หิ้วชุดทหารอเมริกันมาเพียบ!!!

สินค้าทุกตัว ทุกชิ้นที่ขายในเวปนี้ ดาร์ลิ้งหิ้วมาและส่งตรงจากอเมริกาค่ะ ขอให้ลูกค้าทุกท่านมั่นใจได้เลยว่าเป็นของแท้ 100%ที่หิ้วมาจากอเมริกาโดยตรง ปีนี้ darling หิ้วมาเยอะมาก ๆ ค่ะ บอร์ดผู้โดยสารขาเข้าต่างประเทศ... เวลาไฟท์ลงจอดค่ะ เฝ้ารอดู darling ที่บอร์ด .. หลังจากเช็คเอ้าท์ พอมาถึงสุโขทัยวันนี้ ...มีพัสดุมารออยู่แล้วค่ะ เปิดกล่องลุ้นไปพร้อม ๆ กันเลย