teeneekrubus ที่นี่ครับยูเอส

วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ได้รับพัสดุแล้วค่ะ

กล่องแรก...ได้รับพัสดุวันนี้ค่ะ ...พอเปิดกล่องดูป๊าปปปปป
โห...กระเป๋าน้ำ,ถุงนอน, มุ้ง,ชุดหมีทหารเรือ(สีน้ำเงิน),รองเท้า >>> ดาร์ลิ้งบอก
กล่องนี้เป็นของที่ส่งมาเพื่อเก็บเอาไว้ใช้ส่วนตัวนะคร๊าบบบบบบ
ส่วน กระเป๋าน้ำ และ ชุดหมีทหารเรือ ถ่ายรูปลงเวป ขายได้เลย



ค่าส่งแพงน่าดู ...เกือบ 4,000 บาทเชียวค่ะ




กล่องฉีกขาดมาเลย ...มองเห็นของข้างในโผล่ออกมา ...ทางจนท.ไปรษณีย์โทรมาบอก " มีพัสดุมาคร๊าบบบ เข้ามารับเอง เพราะกล่องพัสดุฉีกขาด กลัวเกิดปัญหาของหาย "
ถ้าหากกล่องชำรุด ฉีกขาด ขอให้ผู้รับ เข้ามารับเองที่ที่ทำการไปรษณีย์ค่ะ ..ผู้รับสามารถเช็คของต่อหน้า เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ได้
หากมีของหายเกิดขึ้น เราสามารถทำเรื่องเรียกร้อง ค่าเสียหาย ตามอัตราเงินประกัน (อันนี้วิไม่แน่ใจว่าทางกรมไปรษณีย์เค้าตั้งวงเงินประกันไว้สูงสุดเท่าไหร่) โดยตรวจสอบตามขั้นตอน ของการขนส่ง



อีกกล่องนึงค่ะ พัสดุกล่องนี้ รอตรวจที่สุวรรณภูมิค่ะ

วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ภาพควันหลง ลอยกระทงคืนสุดท้าย จ. ตาก

งานลอยกระทงของ จ.ตาก ปีนี้ เค้าเริ่มจัดงานกันตั้งแต่วันที่ 9-12 พย.54 ค่ะ
ปกติ ไม่ค่อยชอบออกไปเที่ยวไหน เวลากลางค่ำ กลางคืน
แต่วันนี้ ที่ได้ไปเที่ยวคือ ได้รับคำเชิญชวนจากหลานสาวที่น่ารัก ...เสียงใส ๆ เจื้อยแจ้ว มาตามสาย

หลาน --- " ฮัลโหล!! ป้า ..วันนี้ปิดร้านเร็วหน่อยน่ะ ไปเที่ยวงานลอยกระทงตาก กัน "
" 5 โมงเย็นปิดเลยน๊า "

ป้า--- " อ้าว งานลอยกระทงที่ไหนยังมีอีกเหรอ "

หลาน---" มีจ้า ที่ตากงัย พ่อบอกว่า วันนี้มีงานวันสุดท้าย ให้ชวนป้าไปด้วย "

ป้า---" อ่ะ ค๊า โอเค "

หลานอุตส่าห์โทรมานัดแนะแต่เช้า ไปซะหน่อย นาน ๆ ที จะได้ไปเที่ยวลอยกระทงกับหลาน ๆ
พอได้เวลา ปิดร้าน กลับบ้าน...

โห เตรียมสำหรับกับข้าว ไปกินที่โน่นกันเลยเหรอ ...ปิคนิคค่ะ
เอ้า!! ดี ๆ เปลี่ยนบรรยากาศ

พอไปถึงบริเวณงาน ..หาที่จอดรถก่อน แล้ว
เดินเสาะหาที่นั่งเหมาะ ๆ ริมแม่น้ำปิง เพื่อให้มองเห็น กระทงสายที่เค้าปล่อยมากลางแม่น้ำ
และดูพลุสวย ๆ ที่เค้าจุดเป็นเวลา



ที่เห็นอยู่นั่นคือสะพานคนเดินข้ามแม่น้ำปิงค่ะ
ส่วนด้านล่าง มีแสงสีแดงลอยมากลางแม่น้ำ คือ กระทงสาย ที่ทำจากกะลามะพร้าว
ลอยเรียงรายมาเป็นสาย ...น้ำเชี่ยวมาก ไหลแรงและเร็ว


พลุ จับภาพได้แค่เนี้ยค่ะ


กระทง ทำจากกะลามะพร้าว






วันนี้นักท่องเที่ยวดูบางตาค่ะ ร้านรวงต่าง ๆ ไม่ค่อยมี ตกดึก อากาศเริ่มเย็น น้ำค้างลงเยอะแล้ว
สังเกตุจากเสื่อที่เราปูนั่งกินกัน เปียกแฉะ เต็มไปด้วยน้ำค้าง

พาหลานไปลอยกระทงอีกค่ะ


ตั้งจิตอธิฐานและขอขมาพระแม่คงคาค่ะ

วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เก็บบรรยากาศงานลอยกระทงแบบบ้าน ๆ มาฝากกันค่ะ

สำหรับงานลอยกระทงที่มีชื่อเสียงของชาติและโด่งดังไปทั่วโลก ก็คือ “งานประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ” ที่จังหวัดสุโขทัย ซึ่งถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของงานประเพณีลอยกระทง...

ในปีนี้วิได้มีโอกาสร่วมลอยกระทงพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว ในบรรยากาศเก่า ๆ อีกครั้งค่ะ
ซึ่งทำให้หวนนึกถึงอดีต ที่เพื่อนบ้าน หรือคนในหมู่บ้าน พูดเข้าหูเราอยู่บ่อยครั้ง ว่า เมื่อเห็นครอบครัวของเราแล้ว พากันชื่นชม ยินดี ไปไหน ไปเป็นครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา พ่อแม่ลูก ในสมัยเรายังเด็ก ทุก ๆ เย็น เมื่อเราเสร็จสับจากหน้าที่การงานหรือหลังจากเลิกเรียน เราจะออกมานั่งคุยกันที่หน้าบ้าน โดยมีพ่อแม่ร่วมเสวนาด้วย ในขณะเดียวกัน พวกเราจะช่วยกันทำงานไปด้วย (เรามีกัน 3 คนพี่น้อง)ที่บ้านมีอาชีพหลักคือค้าขายและแม่เป็นช่างเสริมสวยด้วย ส่วนพ่อมีรถสองแถว(เพิ่มอีกอาชีพนึง)

ครอบครัวเราไม่ใช่ครอบครัวร่ำรวย ทุกคนในบ้านเข้าใจค่ะ...แม่จะบอกกับลูก ๆ ทุกครั้งว่า
รายได้ รายจ่าย ของเรามีเท่าไหร่ ...ให้ลูก ๆ รู้จัก ช่วยกันประหยัด รู้จักกิน รู้จักใช้ รู้จักอดออม
พวกเราไม่เคยเกเร ออกนอกลู่นอกทาง ...เราภูมิใจค่ะ ทุกครั้งที่ได้ยินคำชมจากเพื่อนบ้าน
ที่ได้พบเห็นครอบครัวเราเป็นแบบนี้ทุก ๆ วัน
จนกระทั่งพวกเราโตขึ้น เรียนจบ ต่างแยกย้ายกันไปทำมาหากินต่างถิ่น
มีพี่ชายคนเดียว.. ทำงานธนาคาร ใกล้บ้าน ซึ่งตอนนี้เค้าได้จากพวกเราไปแล้ว

มาเข้าเรื่องต่อ...
งานลอยกระทงปีนี้ น้องชายได้พาครอบครัวหนีน้ำท่วมจากกรุงเทพกลับมาบ้านที่สุโขทัย ซึ่งช่วงนี้ตรงกับเทศกาลงานลอยกระทงพอดี เราได้ทำกิจกรรมร่วมกัน พร้อมกับหลาน ๆ อย่างสนุกสนาน
ถึงแม้ขาดบุคคลสำคัญ (พ่อและพี่ชาย)ที่ไม่มีโอกาส กลับมาร่วมสนุกสนานกันพร้อมหน้าพร้อมตา
แต่เราก็ยังมีแม่ ที่ให้ความอบอุ่นกับพวกเราตลอดเวลา ...มีหลาน ๆ ที่น่ารัก เพิ่มเข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัว

นี่คือบรรยากาศการลอยกระทงแบบบ้าน ๆ (บ้านนอก)
ชาวบ้านช่วยกันทำกระทงและโคมลอยขาย ..เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้ ทำบุญเข้าวัดทั้งหมดค่ะ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายและเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้กับพระและสามเณรที่มุ่งมั่นเรียนทางธรรม



ม๊ะ มาอวดกระทงกันหน่อยดิ ของใครสวยกว่ากัน นู๋เลือกเองน๊า


2 ทุ่ม ได้เวลา ไปลอยกระทงที่สระใหญ่ ท้ายหมู่บ้าน


ระหว่างเดินทาง จะได้ยินเสียงพลุ เสียงประทัด จุดไปตลอดเส้นทางค่ะ


บางภาพไม่ชัด จะมัว เห็นเป็นจุดขาว ๆ ..ไม่ทราบสาเหตุค่ะ




ถึงสระใหญ่แล้วค่ะ
ปล่อยโคมลอยกันก่อน ซื้อมา 3 อัน ค่อย ๆ จุด ทีละอัน


สามเณรช่วยแนะนำวิธิการจุดโคมลอย...ที่ฉีกขาด จากการที่เราเดินถือมา โดนโน่น นี่ เกี่ยวจนฉีกขาด
เมื่อเราจุดที่ชนวนแล้ว ระหว่างรอแรงดันอากาศจากเปลวไฟให้โคมได้รูป ทรงตัว ...นำโคมไฟลดต่ำลงมา
ให้อยู่ในระดับต่ำที่สุด เพื่อให้มีแรงดันเฉพาะเปลวไฟอย่างเดียว ให้อากาศเข้าข้างในน้อยที่สุด
เมื่อโคมทรงตัว มีแรงดันจากเปลวไฟ พร้อมปล่อยขึ้นสู่ท้องฟ้า เราตั้งจิตอธิฐานขอพรแต่สิ่งดี ๆ ค่ะ






ปล่อยโคมลอยเสร็จแล้ว ...ลอยกระทงกันต่อค่ะ
ท่านจะเห็นถึงบรรยากาศแบบไทย ๆ ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติและภูเขา(ถ้าถ่ายรูปกลางวันจะเห็นธรรมชาติที่งดงามมาก)
สองข้างทางเต็มไปด้วยนาข้าว ที่กำลังออกรวงเหลืองอร่ามเชียวค่ะ
เสียดายที่ไม่ได้เก็บภาพมาฝาก แบตเตอรี่หมดซะก่อน
วันนี้พระจันทร์เต็มดวง...เราสามารถมองเห็นแสงจันทร์ผ่านมากระทบรวงข้าว
ที่โน้มตัวลงมาเพื่อรอวันเก็บเกี่ยว

วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

น้ำดอกอัญชัญ



ประโยชน์น้ำดอกอัญชัญ:

- ช่วยลดไขมันอุดตันในเส้นเลือด
- ช่วยบำรุงหัวใจ
- เพิ่มประสิทธิภาพของดวงตา เช่น เป็นยาบำรุงรักษาดวงตา แก้อาการตาฟาง ตามัว ตาเสื่อมจากโรคเบาหวาน โรคต้อหิน โรคต้อกระจก เนื่องจากในน้ำดอกอัญชันจะมีสารแอนโธไซยานิน ที่มีประโยชน์อยู่มากมาย นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการขับปัสสาวะอีกด้วย

ส่วนผสม
• ดอกอัญชัญ 1 กำมือใหญ่ ๆ
• ใบเตยหอม 4-5 ใบ
• น้ำสะอาด 2 ลิตร
• น้ำตาลทราย (ตามชอบ)
• มะนาว (ตามชอบ)

วิธีทำ
1. เด็ดก้านสีเขียว ๆ ที่ติดตรงขั้วออก แล้วนำดอกอัญชัญไปล้างให้สะอาด ใบเตยหอมหั่น หรือจับมันมัดกันเอง ระหว่างนั้นก็ตั้งไฟต้มน้ำให้เดือด แล้วใส่ดอกอัญชัญและใบเตยลงไป พอถึงตอนนี้น้ำจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวของใบเตยกับสีน้ำเงินของดอกอัญชัญ ออกมาเป็นสีม่วง
2. รอให้น้ำเดือดแล้วใส่น้ำตาลตามชอบ เสร็จแล้วน้ำมากรองเอากากออก พักทิ้งไว้ให้เย็น เวลาดื่มให้ใส่น้ำแข็ง แค่นี้ก็จะได้น้ำอัญชัญสีสวยสดใส
3. สำหรับใครที่ชอบรสเปรี้ยวก็บีบมะนาวตามชอบ เวลาดื่มจะได้กลิ่นมะนาวทำให้สดชื่นแถมสีก็ดูสวยแปลกตา เรียกได้ว่าแก้วนี้นอกจากจะมีสรรพคุณทางยาแล้ว ยังเพิ่มสีสันให้ชีวิตอีกด้วย

น้ำกระเจี๊ยบแดง



คุณประโยชน์

กลีบเลี้ยงและใบประดับ มีสารแอนโทไซยานิน (anthocyanins) ที่ทำให้มีสีม่วง มีวิตามินซี มีกรด ซิตริก มัลลิก ทำให้มีรสเปี้ยว มีวิตามินเอ ธาตุแคลเซียมสูง ฟอสฟอรัสและอื่น ๆ โดยเฉพาะใบที่มีวิตามินเอสูงมาก ถึง 12,583 I.U. ใน 100 กรัม แต่การมีฟอสฟอรัสสูงเป็นข้อควรระวังสำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจ ส่วนยอดและใบกระเจี๊ยบมีฤทธิ์ช่วยย่อยอาหาร ละลายเสมหะ ขับปัสสาวะ เป็นยาบำรุ่งธาตุ และเป็นยาระบาย ใบตำให้ละเอียดนำมาพอกฝี หรือเอาใบต้มกับน้ำเพื่อชะล้างแผล น้ำกระเจี๊ยบจากกลีบเลี้ยงทำให้สดชื่น แก้กระหายน้ำ ขับน้ำดี ลดไข้ แก้ไอ เจ็บคอ ลดไขมันในเลือดได้เนื่องจากไปขัดขวางไขมันไม่ให้เกาะเส้นเลือด ทำให้ความดันโลหิตลดลง แก้ปัสสาวะขัด แก้นิ่งที่เกิดจากสารที่เป็นด่าง โดยต้มดอกกระเจี๊ยบกับน้ำพอท่วม ดื่มวันละ 3 ครั้ง ติดต่อกันจนกว่าอาการ ปัสสาวะขัดจะหายไป

วิธีทำน้ำกระเจี๊ยบแดง

1.ล้างกระเจี๊ยบให้สะอาด พักไว้

2.ใส่น้ำลงในหม้อ ตั้งไฟพอเดือด ใส่กระเจี๊ยบต้มจนออกสีแดงและเนื้อกระเจี๊ยบนุ่ม กรองเอาแต่น้ำ นำขึ้นตั้งไฟต่อ

3.ใส่น้ำตาล เกลือป่น เคี่ยวไฟอ่อน จนน้ำตาลละลายหมด ยกลง ทิ้งให้เย็น เทใส่ขวดแช่เย็นไว้ดื่มเย็น หรือใส่น้ำแข็งดื่มก็

น้ำเก๊กฮวย



จะให้หอมต้องใช้ดอกเก็กฮวยของเมืองจีน เมื่อก่อนแพงเดี๋ยวนี้ถูก ห่อละไม่เกิน100บาท บรรจุห่อกระดาษสีเหลือง-น้ำตาล มีภาพพิมพ์รูปดอกเก็กฮวยบนกระดาษ
มีขายตามร้านขายยาจีน หรือตลาดเก่าเยาวราช หรือตามร้านของชำในตลาดสด

วิธีทำ
ต้มน้อย ๆ แค่50กรัมก็พอ เอาน้ำกรองสะอาดใส่หม้อต้ม
1. ต้มน้ำจนเดือดพล่าน ใส่ดอกเก๊กฮวยลงไป พร้อมปิดฝาต้มจนเดือด
2. ใส่น้ำตาลทรายขาวลงไปชิมรสตามชอบ รอจนเดือดดีอีกครั้งดอกจะบานอิ่มน้ำแล้วปิดไฟ
3. ปล่อยไว้ให้เย็นโดยที่ยังปิดฝาหม้อไว้ ห้ามใจร้อนเปิดฝาให้คลายความร้อน
จะใช้กะละมังใส่น้ำรองหม้อต้มน้ำเก็กฮวยเพื่อให้เย็นเร็วๆก็ได้
ทำแบบนี้จะได้น้ำเก็กฮวยหอมอร่อย
เมื่อน้ำดอกเก็กฮวยเย็นแล้วกรองเอาแต่น้ำใส ๆ ใส่ขวดแช่เย็นหรือจะดื่มตอนอุ่น ๆ ก็อร่อย
เก็บไว้ในตู้เย็นไว้ดื่มได้ประมาณ1สัปดาห์

หรือทำเก๊กฮวยชงแบบชาดื่มต่างน้ำ และดื่มโดยไม่ต้องเติมน้ำตาล เติมน้ำร้อนได้เรื่อย ๆ จนกว่าสีเหลืองจะหมดไป ดื่มได้วันละหลาย ๆ แก้วโดยไม่เป็นอันตราย

คุณประโยชน์
มีน้ำมันหอมระเหยซึ่งช่วยย่อยและเจริญอาหารและสารสำคัญ เช่น พวกฟลาวาโนน ไกลโคไซด์ มีสารคริสแซนติมีนและอื่น ๆ ซึ่งไม่มีพิษ ไม่มีผลข้างเคียง สารสกัดของเก๊กฮวยสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย มีสรรพคุณเป็นยาเย็น น้ำจากดอกเก๊กฮวยใช้บำรุงปอด แก้เจ็บคอ ลดความดันโลหิต รักษาเส้นเลือดหัวใจตีบ แก้ปวดศีรษะ ปวดท้อง บำรุงประสาท บำรุงสายตา ขับลมในกระเพาะ แก้ร้อนในและแผลร้อนในปาก ถ้าเอาลำต้นสดมาตำให้แหลก ได้น้ำมาทาช่วยลดการอักเสบของผิวหนังได้

ขอกราบขอบคุณลูกค้าทุกท่านค่ะ

ถึงแล้ว ไทยแลนด์ ..หิ้วชุดทหารอเมริกันมาเพียบ!!!

สินค้าทุกตัว ทุกชิ้นที่ขายในเวปนี้ ดาร์ลิ้งหิ้วมาและส่งตรงจากอเมริกาค่ะ ขอให้ลูกค้าทุกท่านมั่นใจได้เลยว่าเป็นของแท้ 100%ที่หิ้วมาจากอเมริกาโดยตรง ปีนี้ darling หิ้วมาเยอะมาก ๆ ค่ะ บอร์ดผู้โดยสารขาเข้าต่างประเทศ... เวลาไฟท์ลงจอดค่ะ เฝ้ารอดู darling ที่บอร์ด .. หลังจากเช็คเอ้าท์ พอมาถึงสุโขทัยวันนี้ ...มีพัสดุมารออยู่แล้วค่ะ เปิดกล่องลุ้นไปพร้อม ๆ กันเลย